ผู้สื่อข่าวรายงานถึงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวฤดูการผลิต ปี 64/65 หรือปีที่ 4 ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่อนุมัติโครงการ
เพราะติดปัญหาวงเงินงบประมาณดำเนินโครงการสูงเกินกรอบวงเงินใช้จ่ายตามมาตรา 28 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังแห่งรัฐ แม้กระทรวงพาณิชย์ได้เสนอให้ ครม.สัปดาห์ที่ผ่านมาพิจารณาแล้วว่า ภายหลังประชุม ครม.สัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เพื่อหาข้อยุติในเรื่องนี้ พร้อมเร่งรัดเสนอให้ ครม.พิจารณาโดยเร็วที่สุด เพราะโครงการได้เริ่มจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างให้เกษตรกรไปแล้วตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค.65 แต่จนถึงขณะนี้ เกษตรกรยังไม่ได้รับเงินส่วนต่างเลย
ทั้งนี้ ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือปัญหานี้กับกระทรวงการคลังแล้ว และเห็นตรงกันที่จะปรับลดกรอบวงเงินงบประมาณสำหรับใช้อุดหนุนข้าวทั้งแพ็กเกจ จากเดิมที่ใช้มากกว่า 150,000 ล้านบาท ลดลงกว่า 80,000 ล้านบาท เหลือประมาณ 66,000 ล้านบาท เพื่อให้พอเพียงกับกรอบวงเงินการใช้จ่ายตามมาตรา 28 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังแห่งรัฐ ที่เหลืออยู่ โดยหลังปรับลดกรอบวงเงินแล้ว กระทรวงพาณิชย์จะเสนอแพ็กเกจนี้ให้ ครม.วันที่ 15 พ.ย.นี้พิจารณา
ซึ่งจะส่งผลให้กระทรวงการคลังสามารถรักษาวินัยการเงินการคลังไว้ได้ โดยไม่ต้องขยายเพดาน จากปัจจุบันที่คงไว้ 32% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี แต่การปรับลดงบประมาณอุดหนุนข้าวครั้งนี้จะไม่กระทบต่อเงินที่ชาวนาจะได้รับ โดยทุกโครงการจะยังได้รับเท่าเดิม แต่จะลดความซ้ำซ้อนของโครงการที่มีความคล้ายคลึงกัน รวมถึง อัปเดตวงเงินที่จะใช้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ราคาข้าวที่เป็นปัจจุบันมากขึ้น เพราะขณะนี้ราคาข้าวเปลือกทุกชนิดปรับขึ้นไปมาก เมื่อเทียบกับกลางปีที่เริ่มทำโครงการ ทำให้ความจำเป็นที่จะใช้งบฯมีน้อยลงกว่าเดิม